วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

พระอาทิตย์ไม่เคยหลับ...ที่นอร์เวย์


ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นอร์ทเคป และสัมผัสบรรยากาศของแสงเหนือย่ำกรุงออสโลและเบอร์เกน ล่องชายฝั่งฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในนอร์เวย์…

เมื่อเอ่ยถึง "ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน" หรือ "The Midnight Sun" เรามักจะนึกถึงประเทศนอร์เวย์ เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนโลกจะเอียงเอาขั้วโลกเหนือเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้ขั้วโลกเหนือได้รับแสงสว่างตลอด 24 ชั่วโมง และชาวนอร์เวย์จะเห็นดวงอาทิตย์เหนือขอบฟ้า แม้แต่ยามเที่ยงคืน


อัศจรรย์ธรรมชาติที่นอร์เวย์

หากต้องการชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ต้องไปเยือนนอร์เวย์ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม โดยควรเดินทางไปยังเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ คือตั้งแต่ เมืองทรูมเซอร์ ไปจนถึง เมืองนอร์ทเคป ซึ่งเป็นเมืองที่คนไทยนิยมมาชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนกันมากที่สุด เพราะที่นี่เป็นเมืองซึ่งพระบาทเสด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จฯ มาในคราวประพาสยุโรปครั้งที่ 2 โดยพระองค์ได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. และปีศ.ค. 1907 ไว้เป็นที่ระลึกบนก้อนหินด้วย

และมานอร์เวย์ทั้งที ก็อย่าลืมนั่งเรือเที่ยวชมความงามของฟยอร์ดตามชายฝั่งของเมืองออสโลหรือเมืองเบอร์เกน แต่ถ้าต้องการชม Sognefjord ฟยอร์ดที่มีความยาวและลึกที่สุดในนอร์เวย์บริเวณชายฝั่งตะวันตก ควรไปโปรแกรมทัวร์ Sognefjord in a Nutshell ซึ่งจะรวมการนั่งเรือชม Sognefjord และการนั่งรถไฟชมภูเขาและน้ำตกที่สวยงาม
ย้ำกรุงออสโลแวะเมืองเบอร์เกน

สองเมืองของนอร์เวย์ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปเยี่ยมชมก็คือ ออสโล และ เบอร์เกน ออสโลเป็นเมืองหลวงของประเทศซึ่งมีอายุกว่าพันปี กรุงออสโลจึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะอันงดงามมากมาย อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง เพื่อทำความรู้จักกับเรือไวกิ้งอันมีชื่อเสียงของนอร์เวย์ พิพิธภัณฑ์ Munch-Museet ที่รวบรวมงานศิลปะของจิตรกรนอร์เวย์ชื่อดัง เอ็ดวาร์ด มุงค์ เอาไว้ และ Vigelandsparken สวนที่ตกแต่งด้วยงานประติมากรรมสมัยใหม่มากกว่าสองร้อยชิ้น

ส่วนเบอร์เกนก็เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของนอร์เวย์ และได้รับยกย่องว่าเป็น "เมืองวัฒนธรรม" เบอร์เกนมีสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างด้วยไม้มากมาย ที่ดูเรียบง่ายแต่งดงามเข้ากับธรรมชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น